Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/84085
Title: Ocular surface microbiome in diabetes mellitus
Other Titles: การศึกษาไมโครไบโอมของเยื่อบุตาในผู้ป่วยเบาหวาน
Authors: Orathai Suwajanakorn
Advisors: Tanittha Chatsuwan
Other author: Chulalongkorn University. Faculty of Medicine
Issue Date: 2021
Publisher: Chulalongkorn University
Abstract: This cross-sectional, age and gender matched study included 20 eyes of non-diabetic subjects (non-DM group) and 60 eyes of type 2 diabetes mellitus (DM group). Subgroups of DM were classified by diabetic retinopathy (DR) staging into no DR (DM-no DR), non-proliferative DR (DM-NPDR), proliferative DR (DM-PDR), and by glycemic control (well-controlled DM; HbA1c<7%, poorly-controlled DM; HbA1c≥7%). Conjunctival swabs were performed for ocular surface microbiome analysis using conventional culture and next-generation sequencing analysis (NGS). A higher culture-positive rate was found in DM (15%) than in non-DM group (5%) (pvalue=0.437). Antibiotic-resistant organisms were only detected in the DR groups (DM-NPDR and DM-PDR). The NGS analysis showed that potentially pathogenic bacteria predominated in DM, especially in DR. There was dissimilarity in the ocular surface microbiome between DM and non-DM groups. The subgroup analysis showed that the DR group had significantly different microbial community from DM-no DR and non-DM groups (p-value<0.05). The microbial community in the poorly-controlled DM was also significantly different from well-controlled DM and non-DM groups (p<0.001). Using the NGS method, this study is the first to signify the importance of DR and glycemic control status, which affect the changes in the ocular surface microbiome.
Other Abstract: การเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุตาและระบบภูมิคุ้มกันในโรคเบาหวาน อาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของไมโครไบโอมที่เยื่อบุตา โดยเฉพาะในภาวะเบาหวานขึ้นจอตาและภาวะที่มีการควบคุมระดับน้ำตาลเลือดได้ไม่ดี การศึกษานี้เป็นการศึกษาไมโครไบโอมของเยื่อบุตาในผู้ป่วยเบาหวาน โดยศึกษาตามระดับความรุนแรงของภาวะเบาหวานขึ้นจอตา และตามระดับการควบคุมน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) โดยวิธีการเพาะเชื้อและ NGS (Next-generation sequencing analysis) ทำการศึกษาแบบตัดขวาง (Cross-sectional study) ในผู้ป่วยเบาหวาน 60 ตาและผู้ที่ไม่เป็นเบาหวาน 20 ตา ทำการเก็บสิ่งส่งตรวจโดยป้ายที่บริเวณเยื่อบุตา ส่งตรวจเพาะเชื้อและวิธี NGS ซึ่งผลการศึกษาจากการเพาะเชื้อ พบเชื้อในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน (15%) มากกว่าผู้ที่ไม่เป็นเบาหวาน (5%) (p-value=0.437) โดยพบเชื้อดื้อยาเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานที่มีเบาหวานขึ้นจอตา ผลตรวจด้วยวิธี NGS พบว่าเชื้อที่เยื่อบุตาในผู้ป่วยเบาหวานต่างจากผู้ที่ไม่เป็นเบาหวาน โดยในผู้ป่วยเบาหวาน พบเชื้อในผู้ที่มีเบาหวานขึ้นจอตา ต่างจากผู้ป่วยที่ไม่มีเบาหวานขึ้นจอตาและผู้ที่ไม่เป็นเบาหวาน (p-value<0.05) และยังพบความแตกต่างของเชื้อระหว่างผู้ป่วยเบาหวานที่ ควบคุมระดับน้ าตาลสะสมในเลือดได้ไม่ดี (HbA1c ≥7%) ต่างจากผู้ป่วยที่คุมได้ดี (HbA1c <7%) และผู้ที่ไม่เป็นเบาหวาน (p<0.001) อีกทั้งยังตรวจพบเชื้อก่อโรคมากขึ้นในผู้ป่วยเบาหวาน โดยเฉพาะในผู้ที่มีเบาหวานขึ้นจอตา การศึกษานี้เป็นการศึกษาแรกที่แสดงถึงไมโครไบโอมของเยื่อ บุตาในผู้ป่วยเบาหวานตามความรุนแรงของเบาหวานขึ้นจอตา และตามระดับการควบคุมน้ าตาล สะสมในเลือด โดยวิธี NGS ซึ่งผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึงผลของการมีภาวะเบาหวานขึ้นจอตา และการควบคุมระดับน้ าตาลในเลือดต่อไมโครไบโอมของเยื่อบุตา
Description: Thesis (M.Sc.)--Chulalongkorn University, 2021
Degree Name: Master of Science
Degree Level: Master's Degree
Degree Discipline: Clinical Sciences
URI: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/84085
Type: Thesis
Appears in Collections:Med - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
6378007230.pdf4.22 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.