Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/74794
Title: การศึกษาการใช้โปรแกรมสุขภาพจิตศึกษาครอบครัวต่อภาระการดูแลของผู้ดูแลผู้ป่วยจิตเภทในชุมชน อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี
Other Titles: A study of using family psychoeducation program on burden among family caregivers of schizophrenic patients in community, Sainoi district, Nonthaburi Province
Authors: ดลฤดี ทับทิม
Advisors: เพ็ญพักตร์ อุทิศ
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะพยาบาลศาสตร์
Subjects: ผู้ป่วยจิตเภท
ครอบครัว -- สุขภาพจิต
ผู้ป่วยจิตเภท -- การดูแล
Schizophrenics
Families -- Mental health
Schizophrenics -- Care
Issue Date: 2552
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: การศึกษาครั้งนี้เป็นการดำเนินโครงการศึกษาอิสระ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบภาระ การดูแลของผู้ดูแลผู้ป่วยจิตเภทในชุมชน อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ก่อนและหลังการใช้ โปรแกรมสุขภาพจิตศึกษาครอบครัว กลุ่มตัวอย่างคือ ครอบครัวผู้ดูแลผู้ป่วยจิตเภทในชุมชนในเขต อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งได้รับการคัดเลือกแบบเจาะจงตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ จำนวน 20 ครอบครัว เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ โปรแกรมสุขภาพจิตศึกษาครอบครัวซึ่งพัฒนา โดยจิราพร รักการ(2549) ตามแนวคิดของ Anderson et al.(1980) เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ แบบ วัดภาระการดูแล เครื่องมือกำกับการศึกษา คือ แบบสอบถามความรู้สำหรับผู้ดูแลและผู้ป่วย ซึ่งเครื่องมือทุกชุดได้รับการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ท่าน เครื่องมือ 3 ชุดหลังมีค่าความเที่ยงสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาค เท่ากับ .92 และ KR-20 เท่ากับ .86 และ .85 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยาย ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบความแตกต่างของภาระการดูแลก่อนและหลัง ดำเนินโครงการโดยใช้สถิติทดสอบที (Dependent t-test) ผลการศึกษาที่สำคัญ สรุปได้ดังนี้ คะแนนภาระในการดูแลผู้ป่วยจิตเภทของผู้ดูแลทั้งโดยรวม และ รายด้าน คือ ภาระเชิง ปรนัยและเชิงอัตนัย หลังการใช้โปรแกรมสอนสุขภาพจิตศึกษาครอบครัวต่ำกว่าก่อนใช้โปรแกรม สอนสุขภาพจิตศึกษาครอบครัวอย่างมีใวัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (t= 19.47, 17.10 และ 13.11 ตามลำดับ)
Other Abstract: The objective of this independent project study was to compare caregiving burden of caregivers of schizophrenic patients in community, Sainoi district, Nonthaburi province, before and after the utilization of family psycho-education program. A purposive sample of 20 families of schizophrenic patients incommunity, Sainoi distric, Nonthaburi province, that met the inclusion criteria were recruited. The instrument utilized in this study was a family psycho-education program which was developed by Jirapom Rakkam (2549) based on Anderson’s psychoeducation concept (1980). Data was collected using the caregivers burden instrument. The monitoring instruments were knowledge test for caregiver and schizophrenia patient. All instruments were examined for content validity by 3 professional experts. Reliability of the three latter instruments were reported using Chronbach’s Alpha coefficient as of .92 and KR-20 as of .86 and .85 respectively. Frequency, mean, standard deviation and dependent t-test were used for data analysis. Major findings were as follows : The total score as well as objective and subjective domain of caregiving burden of caregivers of schizophrenic patients after using the family psychoeducation program was significantly lower than that before at p 0.05 level (t = 19.47, 17.10 and 13.11 respectively).
Description: สารนิพนธ์ (พย.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2552
Degree Name: พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/74794
Type: Independent Study
Appears in Collections:Nurse - Independent Studies

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Donrudee_ta_front_p.pdfหน้าปก สารบัญ และบทคัดย่อ891.2 kBAdobe PDFView/Open
Donrudee_ta_ch1_p.pdfบทที่ 11.31 MBAdobe PDFView/Open
Donrudee_ta_ch2_p.pdfบทที่ 22.74 MBAdobe PDFView/Open
Donrudee_ta_ch3_p.pdfบทที่ 32.4 MBAdobe PDFView/Open
Donrudee_ta_ch4_p.pdfบทที่ 4901.71 kBAdobe PDFView/Open
Donrudee_ta_ch5_p.pdfบทที่ 51.17 MBAdobe PDFView/Open
Donrudee_ta_back_p.pdfบรรณานุกรมและภาคผนวก2.17 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.